เรื่องของถุง จบที่นี้เลย

ที่ผ่านมา ได้ซื้อถุงมาใช้ แพ็ค กากกาแฟ ส่งขาย โดยไม่เคยศึกษาข้อมูลมาก่อน พบว่า กากกาแฟ มีปัญหา ขึ้นรา เหม็น ทดลองใช้ถุงหลายอย่าง ตอนนี้มีถุงแบบไม่ได้สเปก เหลือมากมาย เลยอยากจะมาแชร์ ประสบการณ์ให้ทุกท่าน

ถุงในท้องตลาด มีให้เลือกตามความต้องการใช้งาน

1.ถุงเย็น

ชื่อก็บอกแล้ว แต่จะขยายความให้ฟ้ง เหมาะสำหรับใส่ อาหารเย็น นำไปแช่แข็ง ทนต่ออุณหภูมิต่ำ ใส เรียกว่าเป็นถุง LDPE

(Low density Polythylene) จะมีความใสและมันวาว ไปที่ร้าน เราก็เลือกเลย เห็นถุงแบบนี้ หนาดี อากาศไม่น่าเข้า แข็งแรง ถ้าซีลแล้วสวย แต่ถุงแบบนี้ รัดหนังยางไม่ได้เลย น่าเกียจมาก ซื้อมาใช้อยู่ 10 kg ประมาณ 780 บาท แต่ก็ยังพบปัญหา

 

2.ถุงร้อน

hotbag

ชื่อก็บอกเหมือนกัน ทนความร้อนได้ถึง 100 องศาเซลเซียส สามารถมองเห็นสินค้าได้ เริ่มแรกเลย ต้องของราคาถูก เพราะถุงแบบนี้บาง 1 kg มีปริมาณ ถุงเยอะ คุ้มค่า แต่ไม่ทนแรงกระเเทก ยัดกากกาแฟเข้า เป็นอันแตก ลูกค้าเอาไปเก็บในตู้เย็น เป็นอันว่า กากกาแฟเเข็ง

แต่ไว้ในที่ร้อนดีจัง แต่พอฝนตก อากาศเย็น ไอน้ำเข้าไปอยู่เป็นเพื่อนกากกาแฟ ก็เป็นปัญหาอีก

3.ถุงไฮเดน หรือ ถุงร้อนขุ่น

คนขายถุง เรียกว่า ถุงตุส คือ สามารถทนร้อนได้ถึง 100 และเย็นได้ถึง 0 องศา มีลักษณะขาวขุ่น ใช้บรรจุอาหาร ไม่สามารถมองเห็นสินค้า

ถุงนี้ ดีมาก คิดว่า ชีวิตจะมาจบตรงนี้แล้ว แต่ก็ไม่ success เพราะ ยังมีอากาศซึมผ่านได้ หลังจากทดลอง ไป 4 วัน กากกาแฟ ข้างใน ออกตัวเป็นรัง คือ จับตัวเป็นก้อน เนื่องจากสาเหตุการทับ ประกอบกับ กาแฟ จะคายน้ำมันออกมาตลอด เมื่อมีอากาศมากระทบ เชื้อราก็ตามมา ก็เลยเป็นปัญหาอีก

 

4. ถุงซิบ 5555 จบเลย ง่ายสะดวก มีซิบ ราคา ขนาดแพ็ค 1 kg ใบละ 1.50 ปรากฏว่า เกิดปัญหา กากกาแฟไปอยู่ในซิบ รับแรงดันไม่ไหว ซิบแตก ถุงซิบ นั่นคือ ถุงเย็นนั่นเอง

 

กว่าจะรู้ตัวก็หมดเงินกับเรื่องราวของถุง ไปเกือบหมื่น แต่ไม่เป็นไร ความรู้มีค่ามากกว่าเงิน

5. ถุงหูหิ้ว อันนี้ความรู้เพิ่มเติม

มี 3 แบบ คือ ถุงมีเนือแบบไฮเดน

ถุงเนื้อแบบ ถุงร้อน PP หรือ เรียกถุงไฮโซ

ถุงน้ำแข็ง

ทั้ง 4 ถุง อากาศยังผ่านเข้าออกได้ ไอน้ำสามารถซึมผ่านได้เล็กน้อย ไม่ทนต่อไขมัน เช่น พวกกล้วยทอด

เพราะหากนำถุงพลาสติกแต่ละประเภท มาใช้ไม่ถูกต้อง ก็จะทำให้อาหารที่บรรจุนั่นไม่ปลอดภัย และอาจมีการปนเปื้อน ของสารที่เป็นอันตรายจากพลาสติกสู่อาหาร โดยจะค่อยๆ สะสมในร่างกายทีละน้อยๆ ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง

เพื่อความปลอดภัย ….. ก่อนบรรจุอาหารทุกครั้งจึงต้องใส่ใจและเลือกใช้ถุงพลาสติกให้ถูกประเภทกันนะครับ

ราคาถุง จะอยู่ที่ กิโลละ 75 บาท

 

6. ถุงฟรอยด์ จะใช้บรรจุเม็ดกาแฟ มีราคาสูง สามารถทนความร้อนและป้องกันแสงแดดได้

7. ถุงแว็กคัม

vacuum50

การบรรจุด้วยระบบ สูญญากาศ ผลิตภัณท์ที่เป็นอาหาร มากมายหลายชนิด เกิดการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ และทางเคมี เนื่องจากอุณหภูมิ สภาพแวดล้อม และบรรยากาศเป็นต้น การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวทำให้เกิดปฏิกิริยาเคมี (ออกซิเดชั่น) สูญญาน้ำหนัก เกิดสนิม ซึ่งมีผลกระทบ

ต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ในเรื่องต่างๆ เช่น กลิ่น สี รูปร่าง คุณสมบัติอินทรีย์สาร และคุณค่าทางโภชนาการ

ประโยชน์ ป้องกันเชื้อรา แมลงต่างๆ ,ถูกสุขลักษณะ ,คงความสดได้ยาวนานขึ้น

ระบบแพ็คสูญญากาศ เหมาะที่จะใช้กับผลิตภัณฑ์ต่างๆ ดังนี้

1.เนื้อสัตว์ หมูแฮม ไส้กรอก เนยแข็ง พิซซ่า กาแฟ สัตว์ปีก ผงเครื่องเทศ ถั่ว ผลไม้อบแห้ง และอาหารที่เน่าเสียง่าย เป็นต้น

2.ชิ้นส่วนอะไหล่ต่างๆ ที่เกิดสนิมได้ง่าย

ราคาถุง vacuum ขนาด 9×14 อยู่ที่ 5 บาท สำหรับใส่กากกาแฟ 1 kg

8×11 อยู่ที่ 4.50 บาท สำหรับ กากกาแฟ 800 กรัม

 

แบบสุดท้ายที่ กำลังนิยม ถุงฟรอยด์ แบบซิบ ขนาดเล็ก 50 กรัม และ 200 กรัม

ราคาสีทองจะแพงกว่า เวลาเลือก จะมีแบบมีก้นกับไม่มีก้น ราคา ขายส่งที่ตลาดราชวงค์ อยู่ที่ 25 ใบ 40 บาท

bagfroi

เวลานำถุงแบบนี้ไป ฝากขายตามร้านทั่วไป ร้านทั่วไป ไม่ค่อยดูแล ปล่อยให้ตากแดด โดนฝน

กากกาแฟก็จะขึ้นรา หรือ เน่าเสียได้ เหมือนกัน แต่กากกาแฟมีปริมาณน้อย จึงสามารถเก็บได้ระยะเวลาประมาณ 2 เดือน

gold200

ฝากซื้อได้นะครับ

goldbag silver

Speak Your Mind

*