Archives for December 2015

เพราะตัวกาแฟช่วยไล่ไขมันบนผิวได้ดี

ตัวเม็ดหรือผงกาแฟสดนั่น จะไม่ผสมกับน้ำมัน แต่สามารถขจัดไขมันให้สลายได้  ท่านลองเอาน้ำมันมาแล้วหยดเม็ดกาแฟดูซิครับ ท่านจะงงว่าเป็นไปได้อย่างไร  แต่กาแฟ จะสลายในน้ำ  เพราะฉะนั่น  ปัจจุบัน คราบเหงือของร่างกาย เมื่อปนกับฝุ่นละออง จำนวนมากในเมืองหลวง การใช้สบู่ล้างเพียงอย่างเดียวนั่น  จะไม่ออกได้ทั้งหมด  เพราะสบู่ก็เป็นไขมัน ดังนั่น  สบู่สครับกาแฟ จึงได้รับความนิยมมากกว่า สบู่อย่างอื่นที่โอ้อวดสรรพคุณว่า ใช้แล้วขาว  ที่ใช้แล้วขาว  ส่วนมากจะผสมกรดน้ำส้ม ถ้าท่านใดได้ลองใช้ จะรู้สึกคัน ยอมรับว่าทำให้ขาวขึ้นแต่จะเกิดการละคายเคือง   ตัวกากกาแฟเป็นของธรรมชาติ ที่สุด  ดีกับร่างกาย   ช่วยขจัดคราบส่วนเกิน   บางท่านเป็นกะเป็นฝี  เพราะมีไขมันส่วนเกินออกมา  หมั่นขัดล้างด้วยสครับกาแฟ ก็ช่วยท่านได้มาก

ตัวสครับกากกาแฟ ผ่านการบดละเอียด จึงไม่บาดผิว    และราคาถือว่าถูกมากว่า ที่ท่านจะไปซื้อกาแฟมาทำ  กิโลละ60  ถ้าใช้กาแฟที่ยังไม่บดละเอียดจะบาดผิวเป็นแผลเป็น

ลงมาเต็มตัวแล้ว

ทำธุรกิจ เล็ก ๆ  ก็ขายได้  แต่ ทำแล้ว ไม่คุ้มค่า การทำ  ได้กำไร  ค่าแรงเพียง  100-200 บาท  ต้องไปขอกากกาแฟ  ขี่มอเตอร์ไซต์   ไหว้วาน ญาติพี่น้อง  จนปวดหัว

เริ่มต้น  ด้วยการได้กากกาแฟมาฟรี  จากร้าน  แล้วมานั่งคิดว่าจะทำอย่างไรถึงจะได้เงิน จากของฟรี   ค้นพบว่า ในต่างประเทศ นิยมนำมาสครับผิว  กับทำการเพาะเห็ด  ได้   ที่เป็นที่นิยม

ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา  กระแส  กากกาแฟ ในกลุ่มนักเรียน  เป็นที่นิยมมาก  โดยวัยเราก็ไม่ได้อยู่ในสังคมนั่น  ยังงงว่า  เกิดอะไรขึ้น  ทำไมถึงรู้จักกันขนาดนี้

เลยนำมาทดลองใช้กับตัวเอง  พบว่า  กากกาแฟ ช่างทรงคุณค่าจริงๆ   แต่ต้องผ่านกระบวนการอบฆ่าเชื้ออย่างดี   ถ้าใช้กากกาแฟสดเลย จะบาดผิว แทนที่จะแก้โรคผิวหนังจะเป็นโรคผิวหนังแทน

ด้วยนิสัยที่รักสิ่งแวดล้อม   ชอบรีไซเคิลสิ่งของ มาใช้ใหม่    กากกาแฟที่ทิ้งไป ก็เหมือนขยะที่เน่าเหม็น  ไม่ก่อประโยชน์  แถมยังทำลายสิ่งแวดล้อม น้ำเสีย  ความเหม็นอย่างรุนแรง

ประกอบกับ  สิ่งนี้ได้เกิดงาน  และเงิน บ้าง  ผมเอง ยังที่จะหาโอกาสให้คนที่ไม่มีอาชีพ  ได้มีงานทำต่อ  ยังเลี้ยงครอบครัวอีก 2-3 ครอบครัว  ได้มีงานทำ   และเปิดโอกาสให้น้องๆ ที่รักการขาย  มาเป็นตัวแทนขาย  จะได้มีรายได้ เพื่อเป็นทุนการศึกษาได้

ตอนนี้ ก็ลงตัวหลายอย่างแล้ว ก็ให้ทุกคนได้ทำงาน และผลกำไรที่เกิดขึ้น รวมถึงรายได้ของตัวผม  ทุกบาททุกสตางค์  มาสร้างศูนย์รวมหนังสือ ที่เป็นเอกชน  ที่ท่านมาใช้บริการได้   หรือมานั่งเรียน ให้ผมสอนอะไรก็ยินดีครับ

ขอบคุณผู้สนับสนุนทุกท่าน  ด้วยความเคารพ

ช่วงปลายๆ ชีวิต ก็ มีเท่านี้ครับ

 

คาเฟอีน จะดูดและขับน้ำออกมา ทำให้ผิวดูเปล่งเปล่ง

คาเฟอีน ในกาแฟ  มีสารกระตุ้นการทำงานของเซลล์

การเปลี่ยนแปลงของร่างกายและอารมณ์หลังจากดื่มกาแฟ

กาเฟอีนในกาแฟถูกดูดซึมได้หมดและค่อนข้างเร็วในระบบทางเดินอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะท้องว่างการดูดซึมจะยิ่งเร็วขึ้น

ภาย หลังจากการดื่มกาแฟ 30-60 นาที ความเข้มข้นของกาเฟอีนในเลือดจะขึ้นสู่ระดับสูงสุด และหลังจากกาเฟอีนถูกดูดซึม จะกระจายตัวไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกายโดยเฉพาะอวัยวะที่มีเลือดไปเลี้ยงมาก เช่น หัวใจ ตับ ไต และสมอง

นอกจากนี้ กาเฟอีนยังสามารถกระจายสู่รกและน้ำนมได้บ้างประมาณร้อยละ 0.06
การ ขับกาเฟอีนออกจากร่างกายจะแตกต่างกันในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับอายุและสภาพร่างกาย โดยทั่วไปแล้ว ผู้ใหญ่จะใช้เวลา 5-6 ชั่วโมงในการขับกาเฟอีนปริมาณครึ่งหนึ่งที่ได้รับ (half-life) ออกจากร่างกาย

 

มูลค่าธุรกิจกากกาแฟ ต่อปี เพียง 1 แสนบาท

ด้วยธุรกิจการทำกากกาแฟอบแห้ง   มีมูลค่าทางการตลาด ในประเทศไทย เพียง ปีละ 1 แสน บาท  เพราะมีปัจจัยหลายอย่างทางการตลาด

  1. กากกาแฟสามารถหาเองได้ตามร้านกาแฟ
  2. สามารถผลิตเองได้
  3. มีสินค้าตัวอื่นที่ทดแทนการใช้กากกาแฟ

การทำธุรกิจตัวนี้   ทำเป็นตัวหนึ่ง หรือเป็นงานอดิเรก ก็สร้างเงินได้จำนวนหนึ่ง    ผมก็ยังมานั่งคิดว่า ทำไมไม่มีคู่แข่งทางธุรกิจรายใหญ่เข้ามาทำกากกาแฟ    มีแต่นักธุรกิจ เข้ามาทำกาแฟสดมากกว่า  เพราะมูลค่าธุรกิจกาแฟสด ต่อเดือน สำหรับร้านเล็กๆ   มีรายได้เกือบ  5  หมื่นบาท

 

กระบวนการขั้นตอนการผลิตกากกาแฟอบแห้ง

1.ด้านแรงงานค่อนข้างสูง    (ค่าแรงงาน)

2.เวลาในการดำเนินการ     ( 1  กระบวนการใช้เวลา  7 วัน ถึงได้ กากกาแฟอบแห้งสูญญากาศ)

ทำไมต้องขายราคานี้

ปัจจุบันนี้ การขายสินค้าและบริการต่างๆ ผู้บริโภค เป็นฝ่ายเลือก ความถูกต้อง เหมาะสม มีการแข่งขัน การหลอกลวง

ผู้ใช้ส่วนมาก จะศึกษาข้อมูลต่าง ๆ โดยละเอียด ใครที่สามารถให้ข้อมูลได้กระจ่าง เข้าใจ กับผู้ซื้อ ก่อนจะเสียเงิน ในฐานะ เป็นผู้ขาย จะอธิบายข้อมูลให้ เข้าใจรายละเอียด

ต้นทุนตรง                 ค่า กากกาแฟ โดยมากการให้ค่ากากกาแฟ ลองคิดดูว่าถ้าท่านไปขอกากกาแฟจากตามร้านค้า ควรจะให้ค่าเหนื่อยเท่าไหร่ เขาต้องคอยตักมาเก็บ คอยเฝ้า รวมถึงต้นทุนเม็ดกาแฟอีก ที่ราคามากกว่า กิโลละ 300 บาท ค่าสถานที่ของเขา
ลองตีแบบถูกๆเลยนะครับแบบไม่น่าเกียจ โลละ 10 บาท แต่กว่าจะทำแห้งได้ ต้องใช้ กากกาแฟ 2.5 kg ถึงจะได้ 1 kg.     เป็นต้นทุน  25  บาท

 

ต้นทุนแปรผัน

ค่าจัดเก็บวัตถุดิบ การเดินทาง ค่าน้ำมัน ค่าจ้างคนไปเก็บ ให้โลละ 5 บาท (ไปเก็บครั้งละ 30โล เท่ากับ 150 บาท แบบถูกๆเลยนะครับ) รวม  30

ค่าแรงการตาก อบ  แพ็ค ค่าแรงในการนำมาตากแห้ง ดำเนินการต่างๆจนแห้ง ให้โลละ 10 บาท (ต้องยก ต้องเก็บ ตากแดด ใช้เวลาประมาณ 3 วัน)รวม 40

ค่าโฆษณา ค่าใช้จ่ายในการติดต่อสื่อสาร ค่าโฆษณา ค่าทำเวบ ให้โลละ 4 บาท รวม 44

ค่าถุง ค่าถุง อันนี้ต้องรวมด้วย ถุงซีล ใบละ 5 บาท รวม 49

ค่าโทรศัพท์ อย่างน้อยซื้อที่ ต้องคุยกันที นาทีละ 3 บาท 52

ค่าขนส่ง ค่าบริการไปขนส่งให้ฟรี นัดรับ ให้โลละ 3บาท รวม 55

ค่าเครื่องจักร ต้นทุนดอกเบี้ย ค่าเสื่อม การลงทุน ให้โลละ 5 บาท รวม 60

ค่าไฟ ต้องใช้เครื่องร่อน เครื่องบด ต้องมีค่าไฟ ให้โลละ 3 บาท รวม 63

ค่าสถานที่ ร้านต้องเสียค่าเช่า ที่เก็บสินค้า โลละ 3 บาท รวม 66

ค่ากล่อง ถุง อุปกรณ์ที่ใช้แล้วเสีย ค่าความเสี่ยงในการสูญเสียระหว่างการทำ เช่น กากกาแฟหก หรือถุงขาด คัตเตอร์หัก ค่าบำรุงอุปกรณ์ น้ำมันจักร ผ้าเช็ดทำความสะอาด อุปกรณ์ที่ใช้แล้วทิ้ง แปรง ให้โลละ 4 รวม 70

คิดคำนวนในราคาที่ แบบกันเอง แบบคนทำงาน ไม่ได้หวังกำไร รวมแล้วกำไรที่เกิดจากการทำงานแรงงานอยู่ที่ โลละ 15 บาท
ถ้าขายวันละ 20 โล เท่ากับ วันละ 300 ใครจะขายได้วันละ 20 โล ต้องทำขนาดไหน ถึงจะได้วันละ 20 โล ต้นทุนด้านอื่นก็เพิ่มขึ้นด้วย

ทำพลาดมามากแล้ว

ด้วยความดื้อ หรือ ความไม่เข้าใจ เรื่อง กากกาแฟ อบฆ่าเชื้อ  ต้องมีคุณสมบัติอย่างไร  ถึงจะมีคุณภาพที่สุด

ได้ทดลองขาย  ลองทำ สารพัดวิธี  ด้วยความยากในการทำของเปียกให้แห้ง   จน ณ วันนี้ ลูกค้ามาถามว่า พี่ทำได้อย่างไร และลูกค้าที่ถามก็ทำร้านกาแฟ แต่กลับไม่สามารถนำกากกาแฟมา reuse ได้

กากกาแฟที่ขาย  ในช่วง 3 เดือนแรก ตั้งแต่ต้น มกราคม – เมษายน  ปี 58  ในหมู่นักเรียน นักศึกษา ขายดีมาก จนแทบไม่ต้องทำให้กากกาแฟแห้ง ก็ขายได้   หลังจากนั่น สินค้า เริ่มเยอะ  เพราะ ไปเหมาซื้อมาจากร้านกาแฟ ชื่อดัง เกือบทุกร้าน  ย่านสาธร สีลม  ทองหล่อ  ย่านธุรกิจที่มีการบริโภคกาแฟ วันละกว่า  100 kg  ประกอบกับ ยอดขาย ลดลง  มีคู่แข่งทางธุรกิจมากขึ้น  สินค้ามีมากจน เสียดายเงินที่ไปซื้อมา

เข้าสู่หน้าฝน  การทำการตากแห้ง กาแฟ ยุ่งยากมาก  เพราะ เดี่ยวฝนก็ตก   เลยทำการตากแดดไม่ได้   กากกาแฟจะอับความชื้น จนขึ้นรา และกลิ่นเสีย  ปล่อยให้แห้งด้วยเวลา  เขาจึงเรียกว่า ดิน   บางเจ้า ก็ยังนำมาขาย เพราะยอมรับว่าแห้ง  แต่กลิ่นเป็นกลิ่นสาป

ทิ้งกาแฟที่รับมา ประมาณ  1 ตัน   ออกเลย   เริ่มต้นใหม่ และใหม่หลายครั้ง  จนเข้าใจ วัฏจักร หรือ วิธีการ ทำแห้งของกาแฟได้ดี

ที่ผ่านมา คิดว่าของเราที่ทำมีคุณภาพ  ไม่ฟังเสียงคัดค้านของลูกค้า  จนต้องเสียลูกค้าไปมาก  ต้องกราบขอโทษ ณ ที่นี้ด้วย

ตอนนี้ ลูกค้าเก่า มาขอรับกากกาแฟ ได้เลย  ฟรี ๆ   ที่เคยซื้อกันไป

ของไม่มีคุณภาพ  ทำครั้งเดียว คนก็ไม่มาซื้อซ้ำ   และ  เราก็เป็นคนหนึ่ง ที่ไม่ชอบให้ใครมาหลอกเรา  คิดว่า ไม่อยากไปหลอกใครอีก ไม่อยากให้ใครไม่สบายใจ

ทำออกมา  มีปัญหา  ทิ้งเลย  อบนานเกินจนได้กลิ่นไหม้   เราทิ้งหมดเลย

IMG_5084 IMG_5085

เก็บค้างสต้อกนาน  หรือลืมเปิดเครื่องหมุนกาแฟ  มีกลิ่นอับ   เราทิ้งหมดเลย